พาเที่ยวชุมชนชาวยอง บ้านดอนหลวง จังหวัดลำพูน
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ภูมิปัญญา งานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ
สร้างรายได้ให้กับชุมชน สะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน
ในภาคพื้นอุษาคเนย์เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์
อย่างในแถบล้านนาของไทย โดยเฉพาะเมืองลำพูนนั้น กลุ่มชาติพันธุ์ไต หรือไท
ถือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วจังหวัด
หากใครอยากสัมผัสวิถีชุมชนท้องถิ่นในลำพูนแบบดั้งเดิม
แนะนำให้ไปเที่ยวชุมชนชาวยอง ณ บ้านดอนหลวง ที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์
ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีตามแบบบรรพบุรุษ สืบเนื่องมายาวนานร่วมร้อยปี
ดังนั้น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) หรือ อพท.
จึงเข้าไปสนับสนุนจนเกิดเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
ทำความรู้จักประวัติศาสตร์ "ไทยอง"
ไทยอง เป็นชื่อที่ใช้เรียกคนในกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ
ที่ตั้งบ้านเมืองอยู่ที่เมืองยอง ประเทศเมียนมา
และได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2348
เมื่อครั้งที่พระยากาวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่
กวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองร่วมฟื้นฟูอาณาจักรล้านนา
โดยให้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองลำพูน ปัจจุบันพวกเขาเรียกตัวเองว่า "คนยอง"
ซึ่งในการตั้งถิ่นฐานของไทยองในลำพูน
พระเจ้ากาวิละได้สถาปนาให้ผู้นำของชาวยองขึ้นเป็นเจ้าเมือง
และให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ในที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำกวง ตรงข้ามกับตัวเมืองลำพูน
ปัจจุบันคือบ้านเวียงยอง ส่วนไทยองกลุ่มอื่น ๆ
ถูกตั้งให้กระจัดกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของลำพูน
ย้อนไปในอดีตที่เมืองยองในเมียนมา
ไทยองเคยมีวัดหัวข่วงราชฐานหลวงเป็นศูนย์รวมจิตใจ
เมื่อต้องอพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่
จึงได้ร่วมกันสร้างวัดหัวข่วงนางเหลียว
ซึ่งต่อมาวัดก็ได้ถูกแม่น้ำกัดเซาะตลิ่งจนพัง
ชาวยองจึงช่วยกันสร้างวัดใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2357 และใช้ชื่อว่า "วัดหัวขัว"
แม้จะมีความมั่นคงในพระพุทธศาสนา
แต่ในความเชื่อดั้งเดิมของชาวไทยองก็ยังนับถือผีควบคู่กันไปด้วย โดยมี
“เตวะบุตรโหลง”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาให้อยู่เย็นเป็นสุขตราบถึงทุกวันนี้
ชุมชนชาวยอง ณ บ้านดอนหลวง แหล่งผลิตงานหัตถกรรมผ้าฝ้ายทอมือ
ช่างทอผ้าที่บ้านเวียงยอง
ขึ้นชื่อในการสร้างเอกลักษณ์บนชิ้นงานผ้าทอพื้นถิ่นของตนเอง
การออกแบบลวดลายล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งต่าง ๆ
ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิต คติความเชื่อ และพุทธศาสนา
โดยลายบนผืนผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ได้แก่ ลายกล้วยไม้ ลายพิกุล
ลายกนก และลายดอกบานไม่รู้โรย
ซึ่งแต่ละลายล้วนเป็นมรดกตกทอดทางภูมิปัญญาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ทั้งนี้ กระบวนการทอผ้าฝ้าย
เริ่มกันตั้งแต่การปลูกและทำเองแทบจะทุกกระบวนขั้นตอน
โดยอิงกับธรรมชาติเป็นหลัก เกิดเป็น "ผ้าทอยกดอก"
ของขึ้นชื่อแห่งเมืองลำพูน
ซึ่งมีความเฟื่องฟูมาตั้งแต่ช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 จากเจ้าดารารัศมี
(พื้นเพเป็นคนเชียงใหม่) นำความรู้เรื่องการทอผ้ามาสอนให้กับเจ้าลำพูน
ซึ่งเป็นเครือญาติกับเจ้าหญิงส่วนบุญ ชายาเจ้าจักรคำขจรศักดิ์
เจ้าผู้ปกครองลำพูนองค์สุดท้าย
และเมื่อเจ้าหญิงส่วนบุญเห็นว่าชาวเวียงยองทอผ้าเป็น จึงให้ไปทอผ้าในคุ้ม
ตอนหลังคนที่ทอเป็นก็ออกมาสอนคนข้างนอก
จนความรู้เรื่องการทอผ้าแพร่หลายและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นตามลำดับ
ปัจจุบันการทอผ้าฝ้ายของชาวบ้านดอนหลวงมีการพัฒนารูปแบบ สีสัน
และลวดลาย ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เช่น เสื้อผ้า ผ้าคลุมไหล่ ปลอกหมอน
ผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ และผ้าปูเตียง เป็นต้น
อีกทั้งยังผลิตสินค้าออกจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึกไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง
ๆ มากมาย นับเป็นแหล่งผลิตสินค้าจากผ้าฝ้ายทอมือขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ
และจะมีการจัดงานแต่งสี ลวดลาย ผ้าฝ้ายดอนหลวง เป็นประจำทุกปี
หลากกิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชุมชนชาวยอง
ท่ามกลางสังคมเมืองที่เจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ชาวบ้านเวียงยองยังคงอนุรักษ์ รักษา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของตนเองเอาไว้
เช่น
- เรียนรู้งานหัตถกรรมผ้าทอแบบโบราณ
ณ ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เครือข่ายกลุ่มทอผ้าหัตถกรรมพื้นบ้าน
จากฝ้าผ้ายทอมือของชาวบ้านดอนหลวง
กลายเป็นสถานที่เรียนรู้งานหัตถกรรมผ้าแบบโบราณ
ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมเยือนและศึกษาดูงาน
ตลอดจนได้สัมผัสและใกล้ชิดกับเจ้าของผลงาน แลกเปลี่ยนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง
งานฝีมือที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น พัฒนาปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย
จนเป็นรายได้หลักของชุมชน ประกอบกับความสามารถด้านงานฝีมืออันโดดเด่น
จึงทำให้ชุมชนมีงานฝีมือเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้าฝ้ายทอมือที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ
และผลิตผ้าฝ้ายทอมือแปรรูปอื่น ๆ อีกมากมาย
- ทำผ้าบาติกมัดย้อม
เรียนรู้อีกหนึ่งอัตลักษณ์ของชุมชนชาวยอง
กับการทำผ้าบาติกมัดย้อม ซึ่งลวดลายต่าง ๆ มาจากการมัดผ้านั่นเอง
จากนั้นค่อยนำไปต้มหรือย้อมครามธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมีในการย้อม
เสร้จแล้วก็ค่อยนำไปตากให้แห้ง
แกะออกมาหน้าตาสวยสมตามความตั้งใจของคนทำแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น